การแข่งขันวันที่ 3 ภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 30

0
244
image_pdfimage_printPrint

ภูเก็ต 7 ธันวาคม 2559 – การแข่งขันวันที่ 3 ของศึกเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้าครั้งที่ 30 ประสบสภาพลมเบาตั้งแต่ช่วงเช้า ทำให้การแข่งขันเรือใบใหญ่ออกสตาร์ทเกือบเที่ยงวัน แต่สภาพลมเบากลับเอื้อให้ทีมเรือไทยเจ้าถิ่นอาศัยเทคนิคพลิกสถานการณ์ ทำผลงานโดดเด่นจนครองตำแหน่งผู้นำของวันได้ถึง 5 รุ่น คือ รุ่นไออาร์ซี 0 , พรีเมียร์, ปลาทูวันดีไซน์, มัลติฮัลล์ครูซิ่ง, และ ครูซิ่ง ฝ่ายเรือใบเล็ก อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส กลุ่มผู้นำยังคงเป็นนักกีฬาทีมชาติและดาวรุ่งหน้าเดิมจากวันแรกๆ

นาวาเอกพรพรหม สกุลเต็ม รองผู้อำนวยการกองกำลังพล ทัพเรือภาคที่ 3 ผู้อำนวยการจัดการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ครั้งที่ 30 แสดงความเห็นถึงการแข่งขันในวันนี้ว่า “สภาพลมเบาวันนี้ทำให้นักกีฬาเรือใบต้องใช้เทคนิคที่แตกต่างจากสองวันแรกมาก เพราะในสภาพลมแรง นักกีฬาต้องอาศัยพละกำลังและทำงานหนักตอลดเวลา แต่ในสภาพลมเบาแบบวันนี้ จะเน้นที่การตัดสินและการดูทิศทางลมที่ละเอียดกว่า เรียกว่าใช้เทคนิคขั้นสูงเพื่อหาจุดที่ได้เปรียบในสนามแข่ง ซึ่งส่วนตัวคิดว่าการมีสภาพลมแบบวันนี้ทำให้การแข่งขันแฟร์มากขึ้น เพราะถือเป็นการทดสอบทักษะที่แตกต่างของทีมเรือ ซึ่งทีมที่เล่นได้ในสภาพลมทุกแบบจึงจะถือว่าเทพอย่างแท้จริง”

นอกเหนือจากทีมเรือไทยตัวเก็งทั้ง 3 ลำ คือ เรือทีเอชเอ 72 ในรุ่นไออาร์ซี 0, เรือไพน์แปซิฟิก ในรุ่นพรีเมียร์ และ เรือราชนาวี 1 รุ่นปลาทูวันดีไซน์ ที่สามารถคว้าที่ 1 ของวันนี้แล้ว ในการแข่งขันวันที่ 3 ปรากฏอีก 2 ความหวังของทีมเรือใบไทย ได้แก่ เรือซีฮับของกัปตันศุภกิจ ด้วงเงิน ในรุ่นครูซิ่ง และเรือแองเจิลของกัปตันศราวุธ จันทร์ทอง ในรุ่นมัลติฮัลล์ครูซิ่ง ที่เล่นได้อย่างยอดเยี่ยมจนคว้าที่ 1 ของวันได้เป็นครั้งแรก และยังสามารถทำคะแนนรวมตีตื้นคู่แข่งได้แบบหายใจรดต้นคอ

กัปตันเรือไพน์แปซิฟิก อิทธินัย ยิ่งศิริ แชมป์ 3 สมัยในรุ่นพรีเมียร์ เล่าว่า “กำลังลมวันนี้ค่อนข้างเบา โดยในการแข่งขันทั้ง 2 รอบมีแรงลมราว 9-12 น๊อตเท่านั้น ประกอบกับลมเปลี่ยนทิศตลอดเวลา ซึ่งทำให้เราต้องมีการวางแผนที่รอบคอบมากขึ้น ประกอบกับวันนี้ลูกเรือทุกคนทำงานได้ดีมากโดยแทบไม่มีข้อผิดพลาดเลย อีกทั้งเรือของเรามีน้ำหนักเบากว่าคู่แข่ง การที่สภาพลมเบาจึงทำให้เราได้เปรียบอยู่เล็กน้อย ส่วนการแข่งขันในวันต่อๆ ไปยังต้องอาศัยการประชุมวางแผนที่ดีให้สอดรับกับสภาพอากาศ แต่ยังมั่นใจว่าจะคว้าแชมป์คิงส์คัพรีกัตต้าสมัยที่ 4 ได้อย่างแน่นอน”

ฝ่ายกัปตันศุภกิจ ด้วงเงิน แห่งเรือซีฮับ เล่าถึงการแข่งขันในวันนี้ว่า “การแข่งขัน 2 วันแรกนั้น เรายังเล่นไม่เข้าขากันนักเนื่องจากไม่มีเวลาฝึกซ้อมเลย ประกอบกับมีอุปกรณ์ในลำเรือเสียหายเล็กน้อยในการแข่งวันที่ 2 ทำให้เราค่อนข้างเสียเปรียบ แต่ในวันที่ 3 นี้ ทีมเล่นดีมากและเข้าขากันมากขึ้นเรื่อยๆ และวันนี้มีกำลังลมเบาถึงปานกลาง ซึ่งเป็นสภาพลมที่เราถนัด จึงยิ่งทำผลงานได้น่าพอใจมาก”

กัปตันศุภกิจ ด้วงเงิน ประธาน Samui Yacht Club กล่าวถึงทีมเรือของตนเองว่า “เราเพิ่งตั้งทีมซีฮับในช่วงต้นปีที่ผ่านมาก โดยการแข่งขันภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้านี้ถือเป็นการแข่งขันรายการที่ 2 ของทีม รายการแรกคือ Bay Regatta ซึ่งเราสามารถคว้าที่ 1 ในรุ่นครูซิ่ง ซึ่งในการแข่งขันรายการที่ 2 นี้เราก็มั่นใจว่าจะคว้าถ้วยพระราชทานได้เช่นกัน โดยนอกเหนือจากความตั้งใจในการแข่งขันแล้ว เรือซีฮับยังตกแต่งใบเรือใหม่ด้วยตัวอักษร “ธ สถิตในดวงใจ” และลูกเรือทุกคนยังสวมเสื้อที่มีตัวอักษร “คนไทยในรัชกาลที่ 9” เพื่อร่วมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสืบสานกีฬาเรือใบอย่างเต็มความสามารถ”

ในส่วนของการแข่งขันเรือใบเล็ก อินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส สภาพลมเบาในการแข่งขันวันที่ 3 ไม่เป็นปัญหาในการแข่ง โดยกลุ่มตัวเก็งยังคงเกาะอันดับหนึ่งบนตารางเหมือนกับวันก่อนๆ โดยผู้นำในรุ่นเลเซอร์สแตนดาร์ด ยังคงเป็นของ กีรติ บัวลง ที่โชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมตลอดวัน เช่นเดียวกับ กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม ผู้นำในรุ่นเลเซอร์เรเดียล และ อธิษฐ์ โรมานิค ในรุ่นเลเซอร์ 4.7 ส่วนในรุ่น 470 นาวี ธรรมสุนทร และ ณัฐ บุตรมารศรี ยังครองอันดับ 1 เหมือนเมื่อวาน มีเพียงรุ่น 420 ที่ทีมของสุนธร แย้มพินิจ และ นพพร บุญเชิด ที่สามารถคว่ำแชมป์เก่า ขึ้นมาครองอันดับ 1 ได้ในวันนี้ สำหรับเรือใบออพติมิสต์ ศรัณวงค์ พูนพัฒน์ ยังคงรักษาตำแหน่งผู้นำตามคาด

# # #

งานแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า – ศึกเรือใบอันทรงเกียรติสูงสุดแห่งเอเชีย

ตลอดระยะเวลา 3 ทศวรรษที่ผ่านมา งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานได้รับการยกย่องให้เป็นงานการแข่งขันเรือใบนานาชาติสำคัญทีสุดรายการหนึ่งในเอเชีย โดยมีวัตถุประสงค์การจัดงานเพื่อสดุดีพระอัจฉริยภาพและรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงมีต่อวงการเรือใบ นอกจากนี้ งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้ายังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นสถานที่จัดการแข่งขันเรือใบระดับนานาชาติชั้นนำที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในแต่ละปีสามารถดึงดูดนักกีฬาเรือใบทั้งไทยและต่างประเทศมากกว่า 1,000 คน ซึ่งนำเรือใบมากกว่า 200 ลำ มาร่วมการแข่งขันเหนือท้องทะเลอันดามันอันสวยงามของเกาะภูเก็ต

การแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ดำเนินการโดยคณะกรรมการจัดงานการแข่งขันเรือใบชิงถ้วยพระราชทานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้า ภายใต้การอำนวยการของสโมสรเรือใบราชวรุณ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมด้วยกองทัพเรือสมาคมแข่งเรือใบแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และจังหวัดภูเก็ต โดยในแต่ละปี มีการแข่งขันทั้งประเภทเรือใบเล็ก (รายการภูเก็ต ดิงกี้ ซีรี่ส์ และ รายการอินเตอร์เนชั่นแนล ดิงกี้ คลาส) เรือใบประเภทคีลโบ๊ทและมัลติฮัลล์ ซึ่งแบ่งการแข่งขันออกเป็นหลายรุ่น

งานภูเก็ตคิงส์คัพรีกัตต้ามีผู้สนับสนุน ได้แก่ กะตะกรุ๊ป รีสอร์ท ประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนหลักการจัดงาน ร่วมด้วยองค์กรพันธมิตร ได้แก่ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, สำนักงานส่งเสริมการจัดการประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน), และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ตลอดจนผู้ร่วมสนับสนุน ได้แก่ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) และบริษัท หาดทิพย์ จำกัด (มหาชน) โดยมีพันธมิตรสื่อมวลชน ได้แก่ Phuket Gazette, Gazette Radio, The Nation, Prestige, Sea Yachting, The Greater Phuket Magazine, True 4 you, Madame Figaro, Luxury Society Asia, Yachtstyle, The Guide Phuket, RL Magazine, One Coast, และ Phuket Marine Guide

หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาเยี่ยมชมเว็บไซต์ www.kingscup.com
สำหรับสื่อมวลชนที่ต้องการภาพความละเอียดสูง สามารถล็อกอินได้ที่เว็บไซต์ต่อไปนี้
Facebook: http://www.facebook.com/phuketkingscupregatta
IG: phuketkingscupregatta
YouTube Channel: http://www.youtube.com/phuketkingscup