การประชุม World Longevity Forum and Life Science Conference (WLF&LSC) ครั้งแรก ซึ่งจัดโดยเทศบาลเมืองเหอโจว ได้เปิดฉากขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ณ เมืองเหอโจว เขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง ทางภาคใต้ของจีน
การประชุม WLF&LSC มีจุดมุ่งหมายในการผลักดันให้เมืองเหอโจวเป็น “เมืองอายุยืน” รวมถึงสนับสนุนการประยุกต์ใช้ชีววิทยาศาสตร์ ตลอดจนส่งเสริมให้ผู้คนมีสุขภาพดีและอายุยืน
บรรดาผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และนักธุรกิจจากแวดวงการแพทย์ สุขภาพ และชีววิทยาศาสตร์ทั่วโลก ได้ร่วมหารือเชิงลึกในการประชุมครั้งนี้ พร้อมกับให้คำแนะนำในการแก้ปัญหาประชากรสูงวัย
หลิว มู่เหริน รองประธานคณะกรรมการประจำกว่างซีของสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติจีน (CPPCC) กล่าวว่า เมืองเหอโจวมีชื่อเสียงเรื่องการมีอายุยืน โดยมีจุดแข็งด้านทรัพยากรธรรมชาติและระบบนิเวศ ขณะที่กว่างซีก็สนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพอย่างเต็มที่ สำหรับการประชุมครั้งนี้มีการแบ่งปันความคิด โครงการริเริ่ม และประสบการณ์ใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อผลักดันอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพในประเทศไปอีกระดับ
เมืองเหอโจวมีจุดเด่นและลักษณะพิเศษ 5 ประการที่เอื้อต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมสุขภาพและการมีอายุยืน ได้แก่ ความได้เปรียบอย่างชัดเจนในด้านภูมิประเทศ สภาพแวดล้อมและระบบนิเวศที่เหนือกว่า ทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ประวัติศาสตร์และมนุษยธรรม และศักยภาพมหาศาลในการพัฒนา ทั้งนี้ หลี่ หงชิง เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองเหอโจว กล่าวว่า เมืองเหอโจวจะให้ความสำคัญกับการสร้างระบบนิเวศมากขึ้น และจะอาศัยการประชุมนี้ในการเพิ่มความได้เปรียบด้านการพัฒนาสีเขียว
เดนิส จี. อองตวน ประธานคณะมนตรีถาวรขององค์การรัฐอเมริกัน (OAS) กล่าวว่า สุขภาพและการมีอายุยืนเป็นประเด็นสำคัญที่ทุกประเทศทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและศึกษา ขณะที่ปัญหาประชากรสูงวัยน่าวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อยๆในปัจจุบัน ทั้งนี้ องค์การสหประชาชาติกำหนดมาตรฐานการมีอายุยืนไว้ว่า ต้องมีผู้สูงวัยอายุเกินร้อยปีมากกว่า 75 คนต่อประชากร 1 ล้านคน ขณะที่สัดส่วนผู้สูงวัยอายุเกินร้อยปีในเมืองเหอโจวอยู่ที่ 19.91 คนต่อประชากร 100,000 คน ซึ่งสูงกว่ามาตรฐานระหว่างประเทศมาก
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ เมืองเหอโจวได้รุกพัฒนาอุตสาหกรรมระบบนิเวศ-สุขภาพ ภายใต้กรอบ “เมืองอายุยืนระดับโลก”
ปัจจุบัน เมืองเหอโจวมีโครงการระบบนิเวศ-สุขภาพ 91 โครงการ ประกอบด้วย 35 โครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งใช้งบประมาณรวม 2.155 หมื่นล้านหยวน และอีก 56 โครงการหลักที่เกี่ยวกับการวางแผนและการอนุรักษ์ ซึ่งใช้งบประมาณรวม 2.795 หมื่นล้านหยวน
