เมื่อวันที่ 27-28 มิถุนายน 2560 การประชุมสุดยอดด้านการลงทุนจีน-อิสราเอล (China-Israel Investment Summit) ครั้งที่ 3 ได้จัดขึ้นที่เมืองจูไห่ทางภาคใต้ของประเทศจีน โดยมีตัวแทนกว่า 5,200 คน จากบริษัทจีนและอิสราเอลกว่า 2,700 แห่งเข้าร่วมงาน นับเป็นการประชุมทางธุรกิจและการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจงานใหญ่ที่สุดในประเทศจีนที่บริษัทอิสราเอลเข้าร่วม โดยมีการเจรจาจับคู่ทางธุรกิจกว่า 2,000 ครั้งระหว่างบริษัทจีนและอิสราเอล และมีการเซ็นสัญญาในโครงการต่างๆ 14 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
การประชุมนี้ถือเป็นเวทีสำคัญที่เปิดโอกาสให้จีนและอิสราเอลได้ติดต่อสื่อสารและสร้างความร่วมมือในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงเศรษฐกิจและการค้า สำหรับการประชุมสองครั้งก่อนหน้านี้จัดขึ้นที่ปักกิ่งและเทลอาวีฟตามลำดับ
งานนี้ได้รับเกียรติจากแขก 255 ท่าน จากบริษัทอิสราเอล 146 แห่ง รวมถึงบรรดาผู้ก่อตั้งและผู้มีอำนาจตัดสินใจจากบริษัทไฮเทคของอิสราเอลเกือบ 200 แห่งที่ทำธุรกิจในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ระบบอัตโนมัติ เทคโนโลยีทางการเงิน เทคโนโลยีเชิงอุตสาหกรรม ชีววิทยาศาสตร์ และ Internet of Things สำหรับความสำเร็จอันโดดเด่นที่เกิดขึ้นภายในงานประกอบด้วย การจัดตั้งกองทุนนวัตกรรมจีน-อิสราเอล การลงนามข้อตกลงโครงการเครื่องบินพลเรือนระหว่าง Israel Aerospace Industries Ltd. กับ China Aviation Industry General Aircraft Co., Ltd. รวมถึงการตั้งนิคมอุตสาหกรรม China-Israel Enterprise Accelerator Industrial Park ในเมืองจูไห่
กัว หยวนเชียง เลขาธิการคณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองจูไห่ กล่าวว่า “เนื่องจากเมืองจูไห่และประเทศอิสราเอลมีวิสัยทัศน์คล้ายคลึงกันทั้งในด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การคุ้มครองสิ่งแวดล้อม เกษตรกรรม และการศึกษา ความร่วมมือระหว่างสองฝ่ายจึงมีอนาคตสดใสอย่างมาก” และในฐานะเจ้าภาพ เมืองจูไห่ได้คว้าโอกาสใหม่ๆมากมายในการประชุมครั้งนี้
เมืองจูไห่ตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งตะวันตกของปากแม่น้ำเพิร์ล ตรงข้ามกับมหานครใหญ่อย่างฮ่องกงและมาเก๊าที่อยู่อีกฟากของแม่น้ำ ทั้งยังเป็น 1 ใน 4 เขตเศรษฐกิจพิเศษกลุ่มแรกของจีน ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมืองจูไห่ได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมเป็นอย่างยิ่ง และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อสร้างศูนย์กลางอุตสาหกรรมไฮเอนด์ที่สามารถแข่งขันในระดับโลก รวมถึงบ่มเพาะเทคโนโลยีเชิงอุตสาหกรรม พัฒนาบุคลากรที่มีความสามารถด้านนวัตกรรม ลงทุนพัฒนาผู้ประกอบการ และให้บริการด้านทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งการประชุมครั้งนี้ก็ถือเป็นโอกาสดีสำหรับเมืองจูไห่ในการพัฒนานวัตกรรมในระดับภูมิภาค ด้วยการเรียนรู้จากประสบการณ์ของบริษัทอิสราเอล
เนื่องจากเป็นส่วนสำคัญของพื้นที่บริเวณ Greater Bay Area (กวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า) เมืองจูไห่จึงพร้อมยกระดับตนเองให้ได้ตามมาตรฐานการค้าและการลงทุนระดับสากล เพื่อสร้างความร่วมมือรูปแบบใหม่ระหว่างกวางตุ้ง ฮ่องกง และมาเก๊า รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เป็นมิตรกับตลาด ถูกต้องตามกฎหมาย และมีความเป็นสากล เมืองจูไห่สนับสนุนการปฏิรูปและการพัฒนาผ่านการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ จึงสามารถขยายความร่วมมือกับฮ่องกงและมาเก๊าได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังเข้าถึงบุคลากรที่มีศักยภาพจากหลากหลายภาคส่วนของฮ่องกงและมาเก๊าด้วย ซึ่งยุทธศาสตร์การออกสู่ตลาดโลกเช่นนี้จะช่วยผลักดันการพัฒนานวัตกรรมให้เป็นไปอย่างรวดเร็ว
ที่มา: คณะกรรมการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจำเมืองจูไห่
ลิงค์ภาพประกอบ:
http://asianetnews.net/view-attachment?attach-id=292192
AsiaNet 69132