การประชุมรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนนานาชาติครั้งที่ 4 (The 4th International Hydrogen Fuel Cell Vehicle Congress) จัดขึ้นในเมืองหรูเกา มณฑลเจียงซู ทางตะวันออกของจีน ในระหว่างวันที่ 26-28 กันยายนที่ผ่านมา เพื่อสำรวจความร่วมมือและแนวทางการพัฒนาเชิงพาณิชย์สำหรับภาคพลังงานไฮโดรเจนและเซลล์เชื้อเพลิง
การประชุมครั้งนี้ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 1,500 คน ซึ่งรวมถึงผู้เชี่ยวชาญจากทั้งในและต่างประเทศให้มาแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับหัวข้อที่กำลังได้รับความสนใจ เช่น การใช้เซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนในเชิงพาณิชย์ การผลิตและกักเก็บไฮโดรเจน การก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานพลังงานไฮโดรเจน ชุดเซลล์เชื้อเพลิง รวมถึงชิ้นส่วนและส่วนประกอบสำคัญ กฎระเบียบและมาตรฐานนโยบาย การจัดแสดงโครงการ และแหล่งเงินทุน
นอกจากนี้ ในระหว่างพิธีเปิดการประชุมยังได้มีการเปิดตัวแพลตฟอร์มบริการสาธารณะระดับชาติสำหรับการวิจัยและทดสอบรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน โดยถือเป็นผู้ให้บริการทดสอบเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนแบบ Third Party รายแรกในเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี (Yangtze River Delta) และแม้แต่ในประเทศจีน
ขณะเดียวกัน ยังได้มีการออกแผนปฏิบัติการสำหรับการสาธิตรถยนต์ FCVs ในเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซีที่งานนี้ด้วยเช่นกัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสาธิตและการใช้งานรถ FCVs อย่างแพร่หลายในเขตลุ่มแม่น้ำแยงซี
การประชุม FCVC 2019 จัดขึ้นเป็นเวลา 3 วัน ประกอบด้วยการประชุมใหญ่ การประชุมย่อย 6 หัวข้อ กิจกรรมคู่ขนาน 5 งาน กิจกรรมทดลองขับ และนิทรรศการขนาดใหญ่
สมาคมเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจนนานาชาติ (IHFCA) และสมาคมวิศวกรยานยนต์แห่งประเทศจีน (SAE-China) ได้ร่วมกันจัดงานประชุมนี้ขึ้น โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2559 สำหรับในปีนี้ การประชุม FCVC 2019 ได้รับการสนับสนุนจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (UNDP) และศูนย์จีนเพื่อการแลกเปลี่ยนทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ปัจจุบัน เมืองหรูเกา ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำแม่น้ำแยงซี ได้เติบโตขึ้นจนกลายเป็นเมืองที่ครอบคลุมห่วงโซ่อุตสาหกรรมพลังงานไฮโดรเจนอย่างครบถ้วนสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศจีน นอกจากนี้ หรูเกายังเป็นเมืองสาธิตเศรษฐกิจไฮโดรเจน (Hydrogen Economy Demonstration City) แห่งแรกของ UNDP ในประเทศจีนอีกด้วย โดยมีบริษัทมากกว่า 20 แห่งที่ทำธุรกิจด้านพลังงานไฮโดรเจน คิดเป็นมูลค่าผลผลิต 5 พันล้านหยวน และปัจจุบัน เมืองหรูเกาเป็นที่รู้จักในฐานะ “หมู่บ้านไฮโดรเจนสีเขียวในเขตเศรษฐกิจลุ่มแม่น้ำแยงซี”
อ่านข่าวต้นฉบับได้จากบริการข้อมูล Xinhua Silk Road: https://en.imsilkroad.com/p/308634.html
