โครงการ เอ320นีโอของบริษัทผู้ผลิตเครื่องบินชั้นนำอย่างแอร์บัส เริ่มก้าวเข้าใกล้ความจริงอีกขั้นด้วยการประกอบเครื่องยนต์แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ (P&W) รุ่น PurePower PW 1100G-JM เครื่องแรกขึ้นเพื่อทำการทดสอบ โดยมีแผนเริ่มการทดสอบเร็วๆนี้ ณ โรงงานของ P&W ในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา
เครื่องยนต์ PurePower ใช้ระบบเกียร์อันทันสมัยสำหรับส่งกำลังไปยังใบพัด โดยระบบดังกล่าวได้รับการทดสอบแล้วกับเครื่องบินทดสอบ แอร์บัส เอ340 ณ เมืองตูลูส ในปี พ.ศ. 2551 ซึ่งเป็นช่วงริเริ่มโครงการ ‘geared-turbofan’ ของ P&W เกียร์จะช่วยให้ใบพัดเครื่องยนต์ดำเนินงานในระดับความเร็วที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพกว่าคอมเพรสเซอร์แรงดันต่ำ (low-pressure compressor) และกังหัน (turbine) การบูรณาการระบบเกียร์และเทคโนโลยีขั้นสูงโฉมใหม่เป็นวิธีการแก้ปัญหาอันทรงศักยภาพเพื่อช่วยลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงและไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
มร. พอล อดัมส์ รองประธานอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการและวิศวกรรมแห่งแพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ กล่าวว่า “แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ PurePower PW 1100G-JM จะเป็นเครื่องยนต์ลำดับแรกซึ่งเข้าให้บริการกับเครื่องบินแอร์บัส เอ320นีโอ เรามั่นใจว่าเครื่องยนต์แบบ Geared Turbofan จะนำเสนอประสิทธิภาพและความคุ้มค่าสูงสุดเพื่ออนาคตแห่งการบิน ยิ่งไปกว่านั้นเครื่องยนต์ใหม่สำหรับตระกูล เอ320นีโอ ยังสนับสนุนการเติบโตด้านธุรกิจในตลาดการบินให้แอร์บัสอีกด้วย”
“เครื่องยนต์แพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ รุ่น PurePower นับเป็นหัวใจสำคัญของเครื่องบินแอร์บัสตระกูลเอ320นีโอ” มร.เคลาส์ โรเว รองประธานอาวุโสโครงการเครื่องบินตระกูล เอ320นีโอของแอร์บัส กล่าวพร้อมเสริมต่อไปว่า “การเริ่มกระบวนการทดสอบเครื่องยนต์ใหม่นั้นเป็นก้าวย่างที่สำคัญในการดำเนินงาน โดยเราตั้งตารอผลการทดสอบและการนำเครื่องยนต์ติดตั้งกับตัวเครื่องบินอย่างมาก”
เอ320นีโอ นำเสนอ 2 เครื่องยนต์ทางเลือกอันทรงประสิทธิภาพอย่าง PurePower PW1100G-JM จากแพรทท์ แอนด์ วิทนีย์ และ LEAP-1A turbofan จากซีเอฟเอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนลให้แก่เหล่าสายการบิน ซึ่งเมื่อทำงานประสานกับอุปกรณ์ปลายปีกขนาดใหญ่อย่างชาร์คเล็ท จะยิ่งช่วยผลักดันให้ตระกูล เอ320 ครองตำแหน่งตระกูลเครื่องบินทางเดินเดี่ยวที่ทรงประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุนการดำเนินงานที่สุดแห่งตลาดการบินในอนาคตอันใกล้
เครื่องบินตระกูล เอ320นีโอ ช่วยลดการเผาผลาญเชื้อเพลิงลงถึงร้อยละ 15 มีพิสัยบินเพิ่มขึ้น 500 ไมล์ทะเล (950 กิโลเมตร) และสามารถทำการบรรทุกสินค้าได้มากขึ้น 2 ตัน พร้อมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมโดยลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงถึง 3,600 ตันต่อลำต่อปี (เทียบเท่ากับการขจัดรถยนต์ขนาดกลางจำนวน 1,000 คันออกจากถนน) ยิ่งไปกว่านั้นปริมาณการปล่อยก๊าซไนโตรเจนออกไซด์ยังต่ำกว่ามาตรฐาน CAEP/6 ถึงร้อยละ 50 และลดเสียงรบกวนอีกด้วย
นับแต่ทำการเปิดตัว เครื่องบิน เอ320นีโอ มียอดสั่งซื้อเป็นจำนวนเกือบ 1,500 ลำ จากลูกค้า 30 รายขึ้นแท่นเครื่องบินพาณิชย์ซึ่งจำหน่ายได้รวดเร็วที่สุด โดยจะเข้าให้บริการใน พ.ศ.2558 ขณะที่เครื่องบินตระกูล เอ320 โดยรวมมียอดสั่งซื้อไปแล้วมากกว่า 8,600 ลำ และเครื่องบินเกือบ 5,300 ลำได้ทำการส่งมอบแก่ลูกค้ากว่า 350 รายทั่วโลก ส่งผลให้ตระกูล เอ320 ครองตำแหน่งตระกูลเครื่องบินทางเดินเดี่ยวที่ขายดีที่สุดในโลก ทั้งนี้เครื่องบิน เอ320นีโอ มีโครงสร้างพื้นฐานที่คล้ายคลึงกับเครื่องบินรุ่นอื่นในตระกูลเดียวกันถึงกว่าร้อยละ 95 ทำให้ง่ายต่อการเข้าดำเนินงานร่วมกับฝูงบินที่มีอยู่เดิม
แอร์บัส บริษัทในเครือ EADS เป็นผู้ผลิตเครื่องบินเชิงพาณิชย์ชั้นนำของโลก ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส นำเสนอเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากที่สุดซึ่งสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ตั้งแต่ 100 ถึงกว่า 500 ที่นั่ง แอร์บัสมีโรงงานผลิตและออกแบบตั้งอยู่ ณ ประเทศฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสเปน รวมทั้งบริษัทลูกที่ประเทศสหรัฐอเมริกา จีน ญี่ปุ่นและตะวันออกกลาง
