กะทิ “อัมพวา” ชวนเช็คอิน 3 ศาลเจ้าระดับตำนานช่วงเทศกาลกินเจ

0
654
image_pdfimage_printPrint

“เทศกาลกินเจ” หรือ “ประเพณีถือศีลกินผัก” มีจุดเริ่มต้นจากสาธารณรัฐประชาชนจีน เป็นประเพณีแบบลัทธิเต๋า 9 วัน 9 คืนกำหนดเอาวันจันทรคติคือวันขึ้น 1 ค่ำถึงขึ้น 9 ค่ำเดือน 9 เป็นวันจัดงาน ปัจจุบันเทศกาลกินเจจัดขึ้นในแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย สำหรับปีนี้เทศกาลกินเจของประเทศไทยอยู่ในช่วงระหว่างวันที่ 20-28 ตุลาคม 2560 และเป็นช่วงที่จะมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พ่อหลวงรัชกาลที่ 9 ของปวงชนชาวไทยที่มีกำหนดจะจัดขึ้นอย่างสมพระเกียรติในวันที่ 26 ตุลาคม 2560

เมื่อเร็วๆ นี้ บริษัท เอเซียติค อุตสาหกรรมเกษตร จำกัด ผู้ผลิต แปรรูป และส่งออกผลิตภัณฑ์จากมะพร้าวรายใหญ่ของประเทศไทย ได้เดินสายมอบผลิตภัณฑ์ “อัมพวา” (Ampawa) กะทิแท้ 100% ในขวด PET ที่ไม่ใช่มีดีแค่ขวด แต่คัดสรรกะทิที่ดีที่สุด พร้อมชวนอิ่มบุญ อิ่มใจ แบบสุขภาพดี ด้วยการร่วมสนับสนุนเทศกาลกินเจ ประจำปี 2560 ให้โรงเจของศาลเจ้ารังสรรค์เมนูอาหารหารเจด้วยการใช้กะทิ “อัมพวา” ปรุงอาหารทั้งคาวและหวาน ซึ่งประกอบไปด้วย วัดโพธิ์เย็น จังหวัดกาญจนบุรี ศาลเจ้าซิ่วฮกตั๊ว (โรงเจปากน้ำ) จังหวัดสมุทรสงคราม และศาลเจ้าโจวซือกง ย่านเยาวราช กรุงเทพฯ ซึ่งแต่ละแห่งล้วนมีเรื่องราวความเป็นมาระดับตำนานกันเลยทีเดียว!

เริ่มกันที่ ศาลเจ้าซิ่วฮกตั๊ว (โรงเจปากน้ำ) ติดริมแม่น้ำแม่กลอง ตำบลแควอ้อม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม โรงเจเรือนไม้เก่าแก่อายุกว่า 200 ปี สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ยกทัพมาขับไล่ทัพพม่ายึดค่ายบางกุ้งได้สำเร็จ บ้านเมืองสงบสุขรุ่งเรือง เกิดชุมนุมเรือนแพริมแม่น้ำแม่กลอง จึงมีดำริให้สร้างโรงเจซิ่วฮกตั๊วขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมชาวไทย-จีนได้ปฏิบัติถือศีลกินเจ ภายในโรงเจประดิษฐานพระกิ๋วอ้วงฮุกโจ้วศิลปะจีนเก่าแก่แห่งแรกในจังหวัดสมุทรสงครามเป็นองค์ประธาน และได้ยึดถือปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมพิธีกรรมดั้งเดิม เป็นที่เคารพศรัทธาจากสาธุชนสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน

“ลุงจุก-อัฏฐพร อารักษ์โพชฌงค์” ผู้จัดการปกครองศาลเจ้าซิ่วฮกตั๊ววัย 70 ปี บอกว่า เทศกาลกินเจปีนี้จะมีการจัดพิธีกรรมตามประเพณีดั้งเดิมทุกขั้นตอน เริ่มจากพิธีเชิญฮุกโจ้ว พิธีถวายพุทธบูชา พิธีสวดมนต์ทำวัตรเย็น พิธีสวดมนต์เดินธูป (ทุกวัน) ต่อด้วยวันชิวโหงว จะมีการเดินทางเยี่ยมโรงเจ 15 แห่ง วันชิวลัก จะมีการทำพิธีบูชาดาวนพเคราะห์ สวดมนต์ สะเดาะเคราะห์ ส่วนวันชิวโป้ย จะมีพิธีลอยกระทงกลางคืนจัดเรือบริการชมหิ่งห้อย สำหรับวันชิวเก้า จะมีพิธีซิโกว แจกทาน, โยนติ้ว, แจกข้าวสาร และวันชิวจั๊บ จะมีพิธีส่งฮุกโจ้ว

“ที่พิเศษสำหรับปีนี้คือ วันที่ 26 ตุลาคม 2560 ซึ่งตรงกับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เราก็จะมีการสวดมนต์ทั้งวันทั้งคืนเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน สำหรับเทศกาลกินเจปีนี้ยังคงมีอาหารเจบริการฟรีตลอดงาน ขอเชิญชวนท่านสาธุชน ผู้ใจบุญร่วมสืบสานเทศกาลกินเจ พร้อมนมัสการองค์กิ๋วอ้วงฮุกโจ้วแห่งแรกในจังหวัดสมุทรสงคราม และร่วมกันอนุรักษ์โบราณสถานตลอดเส้นทางผ่านซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดสมุทรสงคราม” ลุงจุก กล่าวเชิญชวน

ต่อกันที่ ศาลเจ้าโจวซือกง (วัดซุ่นเฮงยี่) ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพฯ ศาลเจ้าเก่าแก่ที่มีอายุอานามยาวนานถึง 230 ปี เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจีนฮกเกี้ยนและชาวตลาดน้อยมีการจัดพิธีกินเจมาอย่างต่อเนื่องยาวนานร่วมร้อยกว่าปีที่ยังคงมีการสืบทอดพิธีกรรมตามประเพณีความเชื่อดั้งเดิม ตามประวัติสันนิษฐานว่าศาลเจ้าโจวซือกงแห่งนี้สร้างในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ โดยชาวจีนฮกเกี้ยนได้ร่วมกันซ่อมแซมเปลี่ยนวัดซุ่นเฮงยี่เป็นศาลเจ้าแห่งใหม่ โดยอัญเชิญองค์เทพเจ้าโจวซือกง (พระหมอ) ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างมากของชาวจีนฮกเกี้ยนมาประดิษฐาน และขนานนามว่า “ศาลเจ้าโจวซือกง” แปลเป็นไทยหมายถึง “ปรมาจารย์ปู่” หรือที่ชาวตลาดน้อยเรียก “หลวงปู่โจวซือกง” เทพเจ้าโจวซือกง มีลักษณะเด่นคือ ทั้งองค์เป็นสีดำ ในขณะที่เทพองค์อื่นๆ มีสีทอง

“เฮียอ้น-ไพรัช สิมะวรา” รองผู้จัดการ เลขานุการศาลเจ้าโจวซือกง เล่าว่า จากความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่โจวซือกง ทำให้มีผู้มาร่วมทำบุญเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะงานถือศีลกินเจที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ทุกปี สำหรับในปีนี้ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 เราจึงงดความบันเทิงทั้งหมด แต่ยังคงไว้สำหรับการเดินเวียนเทียน รวมทั้งที่พิเศษในปีนี้คือ การจัดนิทรรศการเกี่ยวกับในหลวง รัชกาลที่ 9 ณ พิพิธภัณฑ์บ้านไม้สักจีนเอ๊งฮอกต๋องซึ่งตั้งอยู่ข้างๆ ศาลเจ้าซึ่งเป็นบ้านที่มีตำนานของต้นกำเนิดครอบครัว “ตันติเวชกุล” โดยมีผู้สนับสนุนหลักคือ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ในฐานะประธานที่ปรึกษามูลนิธิศาลเจ้าโจวซือกง

“นอกจากการเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวจีนแล้ว ศาลเจ้าโจวซือกงยังมีคุณค่าทางศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมจึงถูกจัดเป็นหนึ่งในจุดแวะพักของทัวร์จักรยานที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก มีผู้ให้ความสนใจมาเยี่ยมชมแวะพักไหว้พระทุกวัน รวมถึงเจดีย์ทรงจีนแปดเหลี่ยมจีจินเกาะที่ตั้งอยู่อีกฟากฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาตรงข้าม ทำให้ศาลเจ้าโจวซือกงเป็นพื้นที่สาธารณะให้ชาวตลาดน้อยได้เข้ามาพักผ่อนหย่อนใจและใกล้ชิดแม่น้ำได้เป็นอย่างดี ในช่วงเทศกาลกินเจแต่ละปีจะมีคนเข้ามาที่นี่เป็นหมื่นๆ คน ปีนี้ก็ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกินเจ สุขกาย สุขใจ อิ่มบุญ อิ่มใจ ถือโอกาสช่วงเทศกาลกินเจนี้ปล่อยวาง ทำจิตใจให้สะอาด บริสุทธิ์ พร้อมร่วมกันถวายเป็นพระราชกุศลแด่ในหลวงรัชกาลที่ 9” เฮียอ้น กล่าว

ปักหมุดปิดท้ายกันที่ วัดโพธิ์เย็น ริมแม่น้ำแม่กลอง ตำบลดอนขมิ้น อำเภอท่ามะกา จังหวัดกาญจนบุรี วัดแรกในประเทศไทยที่สามารถทำพิธีอุปสมบทพระภิกษุจีนนิกายมหายาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 พระอุโบสถวัดโพธิ์เย็นมีความสวยงามแบบศิลปะทิเบต ภายในมีพระปฏิมากรพระศากยมุนีพระพุทธเจ้าประดิษฐานเป็นพระประธาน รองลงมามีพระไวโรจน์พุทธเจ้า ด้านซ้าย-ขวามีพระเวทโพธิสัตว์ และพระสังฆารามปาลโพธิสัตว์ ด้านหน้าพระอุโบสถมีพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ (กวนอิมผู่สัก) ประดิษฐานอยู่ ส่วนด้านหลังพระอุโบสถมีพระสยามตาราโพธิสัตว์หรือพระสุนทรีวาณีโพธิสัตว์ (เหล็กโต่วบ้อ) ประดิษฐานอยู่

“หลวงจีนปลัดเสี่ยเหลียง” วัดโพธิ์เย็น เล่าให้ฟังว่า แรกเริ่มเดิมทีแล้วที่นี่เป็นโรงเจเก่า ต่อมาจึงสร้างเป็นวัดโพธิ์เย็น แต่ก็ยังคงโรงเจไว้ ปกติจะมีคนแวะเวียนมาที่วัดโพธิ์เย็นไม่ขาดสาย โดยเฉพาะช่วงเทศกาลกินเจจะมีคนมากินเจที่นี่เยอะมาก สำหรับในปีนี้เทศกาลกินเจอยู่ในช่วงเดียวกันกับวันถวายพระเพลิงพระบรมศพในหลวงรัชกาลที่ 9 ดังนั้นในทุกพิธีกรรมของทางวัดและการสวดมนต์ต่างๆ ก็จะมีการอธิษฐานจิตเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน

“ศาลเจ้าซิ่วฮกตั๊ว – ศาลเจ้าโจวซือกง – วัดโพธิ์เย็น” 3 ศาลเจ้า 3 จังหวัดที่คุณต้องเช็คอิน! เพื่อสืบสานประเพณีถือศีลกินเจในปีนี้ เพราะนอกจากจะ อิ่มบุญ อิ่มใจ แล้วต้องบอกว่าทั้ง 3 เจล้วนขึ้นชื่อในเรื่องของเมนูอาหารเจทั้งคาวหวานจากเชฟประจำโรงเจที่มีประสบการณ์มากกว่า 30 ปี พร้อมเตรียมเมนูเด็ดประจำของแต่ละโรงเจ และวัตถุดิบชั้นเลิศไว้คอยต้อนรับผู้ที่มาร่วมทำบุญในปีนี้ กะทิ “อัมพวา” ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ร่วมสนับสนุนวัตถุดิบคุณภาพในปีนี้ของทั้ง 3 โรงเจ ขอเชิญชวนทุกท่านได้ร่วมกันถือศิล กินเจ เพื่อร่วมใจกันถวายความอาลัยและน้อมส่งเสด็จในหลวงรัชกาลที่ 9 “พ่อของแผ่นดิน” สู่สวรรคาลัยโดยพร้อมเพรียงกัน.