กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สั่งจับตาสถานการณ์เลิกจ้างอย่างใกล้ชิด เน้นกิจการกลุ่มเสี่ยง แนะนายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายแรงงาน พร้อมลงพื้นที่ช่วยลูกจ้างถูกเลิกจ้างทันที ย้ำขอนายจ้างลูกจ้างยึดหลักสุจริตใจ
นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวว่า ตามที่ปรากฏข่าวว่าในช่วงนี้ มีสถานประกอบกิจการหลายแห่งหยุดกิจการชั่วคราวโดยใช้มาตรา 75 ตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 เลิกจ้างลูกจ้าง รวมทั้งปิดกิจการนั้น ซึ่งจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเบื้องต้นพบว่า บางข่าวเป็นข่าวไม่จริงสถานประกอบกิจการไม่ได้มีการเลิกจ้างแต่อย่างใด และบางข่าวเป็นข่าวเก่าที่เหตุการณ์เกิดขึ้นมานานแล้ว อย่างไรก็ตาม กสร. ไม่ได้นิ่งนอนใจกับประเด็นปัญหาดังกล่าว ได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงานของสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานที่มีอยู่ ทั่วประเทศจับตา เฝ้าระวังสถานประกอบกิจการที่อาจสุ่มเสี่ยงเข้าข่ายปิดกิจการอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะประเภทกิจการกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ กิจการรับเหมาก่อสร้าง โรงแรม ยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ หากมีสัญญาณว่าอาจมีปัญหาดังกล่าว ให้พนักงานตรวจแรงงานเข้าไปให้คำปรึกษา ชี้แจงแนวทางการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายแรงงานแก่นายจ้างลูกจ้าง และหากพบว่ามีการเลิกจ้างลูกจ้างในพื้นที่ให้เร่งดำเนินการ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความช่วยเหลือลูกจ้างในทันที
นายอภิญญา กล่าวต่อว่า สำหรับสถานประกอบกิจการที่มีผลกำไรลดลงหรือประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ ขอให้นายจ้าง ลูกจ้างปรึกษาหารือร่วมกัน พูดคุยกันด้วยเหตุผล นายจ้างควรชี้แจงข้อเท็จจริงถึงผลประกอบกิจการ ในปีนั้น ๆ เพื่อทำความเข้าใจกับลูกจ้างอย่างตรงไปตรงมาโดยยึดหลักสุจริตใจ และขอให้ทั้งสองฝ่ายคำนึงถึงสิทธิ หน้าที่ภายใต้กรอบของกฎหมาย ทั้งนี้ หากลูกจ้างถูกเลิกจ้างและนายจ้างไม่ได้ปฏิบัติตามกฎหมาย ลูกจ้างสามารถ ยื่นคำร้องได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานคร 10 พื้นที่ หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน 1506 กด 3