กสร. รับนโยบาย “บิ๊กอู๋” ตั้งเป้าคุ้มครองแรงงานทั่วถึง

0
540
image_pdfimage_printPrint

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน รับนโยบาย รมว.แรงงาน เน้นนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ขยายความร่วมมือทุกภาคส่วน พร้อมขับเคลื่อนการดำเนินงานลงสู่ระดับท้องถิ่น ตั้งเป้าแรงงานต้องได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างทั่วถึง

นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มีนโยบายที่มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดดำเนินการอย่างเร่งด่วน โดยในส่วนของกสร. ได้เร่งรัดให้แก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ด้านแรงงานโดยเฉพาะการทำประมงผิดกฎหมาย หรือ IUU Fishing และการป้องกันมิให้มีการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย รวมไปถึงการขับเคลื่อนนโยบาย Safety Thailand ด้วยการตรวจและบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ทั้งนี้ กสร. ได้กำหนดทิศทางการดำเนินงานในปีงบประมาณ 2561 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล โดยมุ่งเน้นการนำนโยบายลงสู่การปฏิบัติ กำชับทุกหน่วยงานให้ทำงาน   เชิงรุก เน้นตรวจบังคับใช้กฎหมายโดยเฉพาะในกิจการกลุ่มเสี่ยง กุ้ง ปลา อ้อย/น้ำตาล เครื่องนุ่งห่ม และ   การตรวจแรงงานเด็กในทุกกิจการ รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดเครือข่ายเฝ้าระวังปัญหาในระดับชุมชน ตลอดจนสร้างความร่วมมือในการป้องกันและคุ้มครองแรงงานประมงไทย โดยการตรวจแรงงานประมงแบบบูรณาการในเขตน่านน้ำไทย

นายอนันต์ชัย กล่าวต่อไปว่า สำหรับนโยบายด้านความปลอดภัยในการทำงานได้มีการขยายเครือข่ายการดำเนินงานตามโครงการ Safety Thailand จากเดิมที่มี 6 กระทรวง โดยเข้าร่วมเพิ่มเติมอีก 4 กระทรวง ได้แก่ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงศึกษาธิการ และอีก 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าไทย และวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เข้าร่วมเป็นภาคีดำเนินงาน รวมเป็นเครือข่ายของ 10 กระทรวง + 4 หน่วยงานภาคี นอกจากนี้ กสร. ได้กำหนดแนวทางการดำเนินการขับเคลื่อนความปลอดภัยในการทำงานลงสู่ระดับท้องถิ่น โดยบูรณาการกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ภายใต้โครงการ “เสริมสร้างความปลอดภัยในการทำงานสู่ระดับท้องถิ่นและชุมชน” โดยส่งเสริมให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนความปลอดภัยอาชีวอนามัยประเทศไทยระดับจังหวัดและระดับท้องถิ่น เพื่อบูรณาการการทำงานร่วมกันและเสริมสร้างองค์ความรู้ด้านความปลอดภัยในการทำงานสู่คนทำงานทุกภาคส่วน ทั้งนี้ เพื่อให้แรงงานได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายอย่างทั่วถึง เป็นธรรม และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน