1

กลุ่มสายงานด้านการเงินและบัญชีไทย กลุ่ม Talent แย่งตัวสูงถึง 1 ต่อ 5 เงินเดือนก้าวกระโดด ร้อยละ 60 ขึ้นแท่นอันดับ 1 AEC

ในยุคการเปลี่ยนแปลงและแข่งขันสูง อาชีพในฝัน คงเป็นสิ่งที่ใครหลายคนต้องการ เพราะนอกจากจะได้ทำในสิ่งที่รัก อาชีพยังสามารถดลบัลดาลรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับเราอีกด้วย ซึ่งอาชีพอันดับหนึ่ง ที่ติดโผการสร้างรายได้ดี ในพ.ศ. นี้ คงหนีไม่พ้น สายงานด้าน การเงินและการบัญชี (Finance And Accounting) ซึ่งในปัจจุบันกลุ่มสายงานด้านนี้ เข้ามามีบทบาทสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจยุคใหม่ ในองค์กรธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นขนาดเล็กหรือใหญ่ จะเห็นได้ชัดจากการชะลอการจ้างงาน ของกลุ่มสายงานด้านอื่นในประเทศไทย ซึ่งสวนทางกับกลุ่มสายงานด้านการเงินและบัญชี ที่ยังคงต้องการบุคลากรอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้จะไม่ร้อนแรง แต่ก็เรียกได้ว่า ประกอบอาชีพนี้ไม่มีทางตกงานแน่นอน

 

ผลสรุปจากการศึกษาหรือสำรวจของ แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ประเทศไทย จาก มร.ไซมอน แมททิวส์, ผู้จัดการประจำประเทศไทย, แถบตะวันออกกลาง และเวียดนาม แมนพาวเวอร์กรุ๊ป ได้ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า กลุ่มสายงานด้านการเงินและบัญชี ถือเป็นกลุ่มที่มีผลกระทบน้อยมาก หรือแทบไม่มีผลกระทบ ในปัจจุบัน บุคลากรสายงานด้านการเงินและการบัญชียังคงเป็นที่ต้องการของภาคองค์กรธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกลุ่ม Talent มีอัตราส่วนถึง 1 ต่อ 5 กล่าวคือในบุคลากร 1 คน มีภาคองค์กรธุรกิจถึง 5 แห่งต้องการตัว และในนักศึกษาคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี ที่มีเกรดเฉลี่ยตั้งแต่ 3.50 ขึ้นไป หรือมีคะแนนเกียรตินิยมอันดับ 1 และ 2 มีการถูกจองตัวจากบริษัทใหญ่ค่อนข้างแน่นอน ในขณะเดียวกันเงินเดือนโดยเฉลี่ยของกลุ่มสายงานด้านนี้ ค่อนข้างสูง และมีการก้าวกระโดดถึงร้อยละ 60 ถือว่าสูงมาก เมื่อเทียบกับสายงานด้านอื่น

 

การบริหารจัดการการเงินภายในองค์กร, การบริหารทิศทางของธุรกิจ และการวางแผนการลงทุน คือ คุณสมบัติของนักการเงินและการบัญชียุคใหม่ ที่มีการปรับเปลี่ยนไปตามเทรนด์ของโลกเศรษฐกิจ จากอดีตที่เคยทำงานแบบต่อเนื่องประจำทุกเดือน (Routine Work) ในปัจจุบันเจ้าของธุรกิจหรือองค์กร ต้องการคนที่มีความรู้ไม่ใช่แค่ปฏิบัติการเท่านั้น บุคลากรยังต้องมีความรู้รอบ, ความเข้าใจในธุรกิจที่ทำ, ความรู้ความเชี่ยวชาญในระบบต่างๆ  ไม่ว่าจะเป็น SAP, ERP, Oracle หรือ JD Edwards  อีกทั้งยังต้องมีความสามารถทางด้านธุรกิจ คือ ต้องเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ธุรกิจ สามารถคิดได้ว่าควรมีการวางงบประมาณการบริหารเงินลงทุนอย่างไร เพื่อประโยชน์สูงสุดของธุรกิจ นอกจากนี้แล้ว งานด้านภาษี ถือว่าสำคัญมากในสายงานด้านนี้ จากอดีต บุคลากรด้านบัญชีเป็นผู้ดูแลภาษีของหน่วยงานหรือองค์กร แต่ในปัจจุบัน ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี (Tax Specialist) ที่มีการการันตีด้วยใบ CPA (Certificate Public Account) เข้ามามีบทบาทต่อองค์กร เพื่อวิเคราะห์ภาษี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการได้กำไร หรือขาดทุน ดังนั้นจึงถือว่ามีความสำคัญอันดับต้นเลยก็ว่าได้

 

 

ในปี 2558 ที่จะถึงนี้ เมื่อมีการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) อัตราความต้องการของกลุ่มสายงานด้านการเงินและบัญชี จะเพิ่มขึ้นอีก ร้อยละ 20 ซึ่งส่งผลดีต่อกลุ่มสายงานด้านการเงินและบัญชี เป็นอย่างมาก ด้วยความที่กฎหมายของไทย ยังคงปิดช่องทางในการเข้ามาทำธุรกิจในด้านนี้จากชาวต่างชาติ เรียกได้ว่าเป็นอาชีพสงวนสำหรับคนไทย แต่ในส่วนของการดึงตัวบุคลากรระดับหัวกะทิ ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ ประเทศพม่า, ลาว และเวียดนาม มีสูงมาก เนื่องจากในอาเซียน ประเทศไทยถือว่าเป็น เบอร์หนึ่งในกลุ่มสายงานด้านการเงินและบัญชี รองลง คือ มาเลเซีย สิงค์โปร อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

 

ข้อดีที่เราเป็นต่อในสนาม AEC ในกลุ่มสายงานด้านการเงินและบัญชี คือ บุคลากรในสายงานมีศักยภาพในการวิเคราะห์ทางด้านธุรกิจค่อนข้างดี อีกทั้งมีความสามารถในเรื่องภาษี อย่างลึกซึ้ง ซึ่งถือว่าเป็นข้อได้เปรียบ จากประเทศอื่นๆ ในอาเซียน ด้วยวัฒนธรรมที่คนไทยเป็นคนมีความละเอียดรอบคอบ ส่วนในเรื่องของภาษา กลุ่มสายงานนี้ก็มีไม่ด้อยไปกว่าเพื่อนบ้าน ซึ่งในอนาคตอาจมีการเพิ่มทักษะของภาษาที่ 2 หรือ 3 เข้าไป เช่น ภาษาเวียดนาม พม่า ตากาล็อค เป็นต้น