กลุ่มกองทุนธุรกิจชั้นนำจัดสรรทุนกว่า 3.7 พันล้านบาทเพื่อลงทุนในธุรกิจไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แก่กองทุนไนน์ เบซิล

0
901
image_pdfimage_printPrint

บลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ ตั้งกองทุนไนน์ เบซิลเพื่ออัดฉีดการลงทุนให้กับธุรกิจในไทยและ SEA
ต้านผลกระทบจากภาวะโควิด-19

กลุ่มบลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ (Blueprint Forest: BPF) ธุรกิจบริหารจัดการเงินลงทุนของธุรกิจ Multi-family office ชั้นนำ เผยถึงความร่วมมือจัดตั้ง กองทุน ไนน์ เบซิล (9 Basil) มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดสรรการลงทุนในธุรกิจในประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกองทุนไนน์ เบซิล ได้รับการสนับสนุนจากนักธุรกิจชั้นนำของเอเชียมากมายโดยเงินทุนดังกล่าวจะนำไปลงทุนในธุรกิจบริการด้านการเงิน สินค้าอุปโภคบริโภค ธุรกิจการจัดการและกระจายสินค้า และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งธุรกิจบริหารจัดการสินทรัพย์

นายชวิณ เจียรวนนท์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริหารกลุ่มบลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ และกองทุนไนน์ เบซิล กล่าวถึงการจัดตั้งกองทุน ไนน์ เบซิล ครั้งนี้ว่า “เราวางแผนให้กองทุน ไนน์ เบซิล เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ให้กับธุรกิจต่างๆ เพื่อช่วยเชื่อมโยงเครือข่ายธุรกิจที่โดดเด่นและมีศักยภาพในตลาดนั้นๆ เรามองหาธุรกิจที่พร้อมก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำของตลาด ให้อัตราส่วนผลตอบแทนต่อการลงทุน (ROIC) สูง มีโครงสร้างการลงทุนที่เพิ่มมูลค่าในระยะยาว โดยจะให้น้ำหนักการลงทุนกับธุรกิจในประเทศไทยเป็นอันดับต้นๆ”

จากการจัดตั้งกองทุนไนน์ เบซิลทำให้พอร์ตโฟลิโอการลงทุนทั้งหมดของกลุ่มบลูพริ้นท์ ฟอเรสต์มีทั้งหมด 4 กองทุน ซึ่งรวมถึง ลอสเลสแคปปิตอล (Lossless Capital) โอเพนฟอเรสต์ (Open Forest) และบลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ (Blueprint Forest) ซึ่งเพิ่มมูลค่ารวมของสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การบริหารทั้งหมดมากขึ้น 1.5 หมื่นล้านบาทนับตั้งแต่ปี 2562

ด้าน ดร. กฤษณ์ พานิชพันธ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและกรรมการบริหาร กองทุนไนน์ เบซิล กล่าวว่า “หัวใจสำคัญของกองทุนนี้ก็คือกระบวนการวิจัย อะไรคือสิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจ เราก็จะศึกษาให้ถึง แก่นของธุรกิจนั้นๆ ซึ่งถือว่าเป็นการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจอีกอย่างหนึ่ง เราสร้างองค์ความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดและปฏิบัติให้เห็นผลได้จริง และจะดำเนินการเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม การลงทุนของเราไม่ได้เป็นไปตามทฤษฎี แต่เป็นจากมุมมองและประสบการณ์ของธุรกิจที่เราดำเนินอยู่ในสังคมธุรกิจนั้นๆ”

บลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ บริหารจัดการกองทุนให้กับครอบครัวกลุ่มธุรกิจชั้นนำกว่า 25 กลุ่มใน 9 ประเทศ และภายใน 5 ปีข้างหน้า บลูพริ้นต์ ฟอเรสต์ ตั้งเป้าที่จะลงทุนต่อปีในอีก 2-3 ธุรกิจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีคุณภาพ และจากการตั้งกองทุน Private Equity กองแรกของไนน์ เบซิลนี้ ยังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาที่ส่วนหนึ่งมาจากผู้ลงทุน (Limited Partner) ในกองทุน รวมถึง
• เพชร โอสถานุเคราะห์ บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) และมหาวิทยาลัยกรุงเทพ
• ปริญญ์ จิราธิวัฒน์ กลุ่มเซ็นทรัล
• ขจร เจียรวนนท์ 2W กรุ๊ป
• แกเบรียล ซิงซัน จูเนียร์ Oakdrive Venture
• เคโกะ ทาชิโร Daiwa Securities Group Inc
• คริสเตียน เจสัน ชาน กลุ่ม Harmony Assets Developments
• ลิม ไค เจีย กลุ่ม K-ix
• รมณี บุญดีเจริญ อดีตผู้บริหาร บริษัท แกรนด์ คาแนล แลนด์ จำกัด (มหาชน)

กองทุน ไนน์ เบซิล ได้ลงทุนในบริษัทชั้นนำของไทยมาแล้วจำนวนหนึ่ง อาทิ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจบริการสินเชื่อทะเบียนรถทุกชนิด และเป็นโบรกเกอร์ประกันวินาศภัยที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย และบริษัทบริหารสินทรัพย์ อัลฟา แคปปิตอล จำกัด

นายชวิณ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ธุรกิจที่เราให้ความสนใจ ณ ตอนนี้คือ ธุรกิจบริการด้านการเงิน ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่ง ‘เงินติดล้อ’ เป็นตัวอย่างที่ดีของธุรกิจที่เราให้ความสนใจไปลงทุน ภายนอกนั้นดูเหมือนว่าเงินติดล้อก็ไม่แตกต่างจากธุรกิจปล่อยสินเชื่อที่เปิดสาขาอยู่ทั่วประเทศ แต่จริงๆ แล้วทีมผู้บริหารของเงินติดล้อนั้นได้สร้างแพลตฟอร์มการปล่อยสินเชื่อโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล รวมทั้งมีการใช้ดาต้าเข้ามาช่วยในการดำเนินธุรกิจเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่เป็นธรรมและโปร่งใสได้ เรามองหาธุรกิจที่มีศักยภาพในการเป็นผู้นำของตลาดดังเช่น เงินติดล้อ ที่ไม่เพียงแค่จะสามารถเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัล แต่ยังสามารถเดินหน้าสู่การเป็นผู้นำของตลาดนั้นๆ ได้อีกด้วย”

“เรามุ่งหวังที่จะช่วยเปิดตลาดใหม่ๆ และส่งเสริมให้เกิดการร่วมมือกันระหว่างธุรกิจต่างๆ ที่เราไปร่วมลงทุน เพื่อช่วยผลักดันให้ธุรกิจนั้นเติบโตไปได้อีกขั้น ซึ่งจุดแข็งของเราคือการเปิดประตูสู่เครือข่ายธุรกิจต่างๆ ในเอเชียให้เชื่อมโยงกัน และสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในมิติต่างๆ ถือได้ว่า ไนน์ เบซิลคือพลังของกลุ่มลงทุนรุ่นใหม่แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”