กรุงเทพมหานคร เดินหน้าเตรียมสร้าง “หอสมุดเมือง” ณ อาคารราชดำเนินย่านสี่แยกคอกวัว พร้อมระดมความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากนักเขียน กวี และผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของชุมชนเมือง ตั้งเป้าให้เป็นหอเกียรติยศ หรือ Hall of Fame เชิดชูเกียรติบุคคลสำคัญในวงการวรรณกรรม รวมทั้งเป็นศูนย์รวมผลงานและหนังสือทรงคุณค่า เป็นแหล่งเรียนรู้ของเยาวชน สาธารณชน และนักท่องเที่ยวทั้งไทยและนานาชาติ อันจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของกรุงเทพฯ และนำไปสู่การเป็นมหานครแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน
กิจกรรม กทม. พบนักเขียน ซึ่งจัดขึ้นภายใต้ธีม “ร.ศ. ๒๓๔…ลิขิตรัตนโกสินทร์” เมื่อเร็วๆ นี้ ณ โรงแรมเจ ดับบลิว แมริออท สุขุมวิท มี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธาน โดยมีผู้บริหารเข้าร่วมต้อนรับและรับฟังการเสวนาในหัวข้อ “ร่วมลิขิต…ร่วมก่อ..หอสมุดเมือง” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ คุณชมัยภร แสงกระจ่าง บางคมบาง ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ประจำปี ๒๕๕๘ คุณบูรพา อารัมภีร นายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย รศ.ทวีศักดิ์ ปิ่นทอง นายกสมาคมภาษาและหนังสือแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ดร. ถนอมวงศ์ ล้ำยอดมรรคผล
นายกสมาคมนักแปลและล่ามแห่งประเทศไทย และ คุณสุชาดา สหัสกุล อุปนายกฝ่ายในประเทศ สมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย โดยมี คุณรัศมี มณีนิล พิธีกรคนดังจากรายการ “ห้องสมุดหลังไมค์” เป็นผู้ดำเนินรายการ รวมทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากเหล่านักเขียน กวี และผู้เกี่ยวข้องที่มาร่วมงาน
กิจกรรมดังกล่าว ยังเป็นโอกาสของการร่วมแสดงความยินดีกับนักเขียนที่ได้รับรางวัลระดับชาติในปีนี้ อาทิ ศิลปินแห่งชาติและรางวัลศิลปาธร สาขาวรรณศิลป์ รางวัลซีไรต์ รางวัลนราธิป รางวัลศรีบูรพา รางวัลแว่นแก้ว รางวัลนายอินทร์อะวอร์ด รางวัลเซเว่นบุคส์อะวอร์ด รางวัลช่อการะเกด รางวัลพานแว่นฟ้า และอื่นๆ
ม.ร.ว. สุขุมพันธุ์ เปิดเผยว่าโครงการ “หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร” (Bangkok City Library) นั้น ถือเป็น ๑ ใน ๙ พันธกิจ ของกรุงเทพมหานครที่ได้รับการคัดเลือกจาก องค์การยูเนสโกให้เป็น “เมืองหนังสือโลก ประจำปี ๒๕๕๖” หรือ Bangkok World Book Capital 2013 โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากแนวคิดและนโยบายของคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานครที่จะผลักดันให้เมืองหลวงของประเทศไทยเป็น “มหานครแห่งการเรียนรู้” โดยแท้จริง จึงมีการส่งเสริมการเรียนรู้นอกห้องเรียน สร้างห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ และเพิ่มจำนวนบ้านหนังสือให้ครอบคลุมทุกเขตพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร รวมถึงสนับสนุนและส่งเสริมการอ่าน เพื่อสร้างวัฒนธรรมรักการอ่านให้เกิดขึ้นในสังคมไทย
“กรุงเทพมหานครได้เดินหน้าตามแนวคิดการสร้างแหล่งเรียนรู้ตลอดชีวิต ที่เรียกว่าเป็นที่เก็บบันทึกแห่งกาลเวลาหรือความทรงจำร่วมกันของสังคมของชนชาติไทย โดยเฉพาะประวัติความเป็นมาของอารยธรรมและความรุ่งเรืองของเมืองหลวงของประเทศในรูปแบบของ ‘หอสมุดเมือง’ เพื่อต้องการให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของประชาชนทุกเพศทุกวัย รวมถึงนักท่องเที่ยวและผู้ที่สนใจค้นคว้าหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนเป็นสถานที่รวบรวมผลงานวรรณกรรมตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันที่สำคัญของไทย” ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าว
จากปี ๒๕๕๖ เป็นต้นมา กรุงเทพมหานครและภาคีเครือข่ายได้ร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจการส่งเสริมการอ่าน พร้อมจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยยึดมั่นตามพันธสัญญาที่ให้ไว้กับคณะกรรมการคัดเลือกเมืองหนังสือโลก จนปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีห้องสมุดเพื่อการเรียนรู้ จำนวน ๓๖ แห่ง รถห้องสมุดเคลื่อนที่ จำนวน ๗ คัน และมีบ้านหนังสือเปิดให้บริการแล้ว จำนวน ๑๕๘ แห่ง
ล่าสุดทางสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้อนุมัติให้ กรุงเทพมหานครเช่าอาคาร ๓ ชั้นบนถนนราชดำเนินบริเวณสี่แยกคอกวัวเพื่อจัดตั้งหอสมุดเมือง ในระยะเวลา ๓๐ ปี มีพื้นที่ใช้สอยประมาณ ๓,๐๐๐ ตารางเมตร สำหรับใช้เป็น หอสมุดเมือง โดยกำลังศึกษาการใช้พื้นที่ส่วนต่างๆ อาทิ ห้องสมุดวรรณกรรมไทย วรรณกรรมอาเซียนและวรรณกรรมโลก ห้องสมุดวรรณกรรมเด็กและเยาวชนนานาชาติ ห้องสมุดประวัติศาสตร์และวิวัฒน์หนังสือไทย ศูนย์ข้อมูลและแหล่งเรียนรู้ และหอจดหมายเหตุศูนย์ภูมิปัญญากรุงเทพฯ รวมถึงส่วนไฮไลต์ คือ หอเกียรติยศ หรือ “Hall of Fame” ซึ่งกรุงเทพมหานครได้ขออนุญาตนำผลงานวรรณกรรมทรงคุณค่าของนักเขียนมารวบรวมไว้ด้วยกัน
หลังดำเนินการแล้วเสร็จ “หอสมุดเมืองกรุงเทพมหานคร” จะกลายเป็นสถานที่สำคัญอีกแห่งของเมือง เพราะตั้งอยู่บนเกาะรัตนโกสินทร์ซึ่งเป็นพื้นที่ท่องเที่ยวอยู่แล้ว อีกทั้งยังมีแนวคิดที่จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง โดยกรุงเทพมหานครจะเป็นผู้บริหารจัดการเองเพราะต้องการให้บริการฟรีแก่ประชาชนเพื่อให้เข้าถึงการอ่านมากขึ้น