กระทรวงอุตสาหกรรมสรุปผลการจัดงาน SME Revolution เส้นทางสายโอกาสเอสเอ็มอี 4.0

0
359
image_pdfimage_printPrint

ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า งาน SME Revolution เส้นทางสายโอกาสเอสเอ็มอี 4.0 โดยมี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติมาเป็นประธานเปิดงานและ มี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ตัวแทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการเงิน และสถาบันการศึกษา ให้เกียรติมาร่วมในพิธิเปิดงาน
ผลเบื้องต้นของการจัดงาน 3 วัน มีผู้เข้าร่วมชมงานจำนวน 14,708 คน มีผู้ประกอบการขอกู้เงินภายในงาน รวม 960 ราย เป็นวงเงินรวม 2,722 ล้านบาท
ทั้งนี้ ภายในงานประกอบไปด้วยกิจกรรมหลัก 4 ส่วน ดังนี้
ส่วนที่ 1 การแสดงนิทรรศการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ในฐานะที่ทั้งสองพระองค์ ทรงเป็นต้นแบบของการเป็นนักคิดและนักพัฒนา และนิทรรศการ SME 4.0 ที่แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของการพัฒนา SME จากยุค 1.0 ถึง 4.0
ส่วนที่ 2 เป็นการแนะนำเครื่องมือและกลไกใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการผ่านคณะกรรมการพัฒนา SME ตามแนวประชารัฐประจำจังหวัด และเครือข่ายศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือ SMEs หรือ SME Support & Rescue Center ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ เพื่อให้สามารถนำการสนับสนุนช่วยเหลือเข้าถึงผู้ประกอบการ SME ในท้องถิ่นได้ทั่วถึง รวมทั้งมาตรการส่งเสริมด้านเงินทุน คือการเปิดตัวกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ วงเงิน 20,000 ล้านบาท และการเปิดตัวกองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอีวงเงิน 2,000 ล้านบาท
ส่วนที่ 3 การแสดงผลงานการขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น (Local Economy) ผ่านโครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ Creative Industry Village – CIV ที่สนับสนุนให้สมาชิกของชุมชนร่วมกันจัดทำแผนบูรณาการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเด่นของชุมชน ที่แฝงไว้ด้วยศิลปะ วัฒนธรรม และภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อนำไปสู่ภาคปฏิบัติ โดยเชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเข้าไว้ด้วยกัน ให้เป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของท้องถิ่น
ส่วนที่ 4 ได้แก่ การสัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการ ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรม เครือข่ายหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ได้ร่วมกันจัดขึ้น โดยครอบคลุมเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการ SMEs วิสาหกิจชุมชน รวมถึงเสนอบริการคลินิกอุตสาหกรรม ที่ให้คำปรึกษาแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าจากผู้ประกอบการ SMEs และกลุ่มอุตสาหกรรมชุมชน ที่มีความโดดเด่นด้านนวัตกรรมด้วย
ทั้งนี้ จากสรุปผลในเบื้องต้นของการจัดงาน 3 วัน ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10 – 12 มีนาคม 2560 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ที่ผ่านมา มีผู้เข้าร่วมชมงานจำนวน 14,708 คน มีผู้ประกอบการขอกู้เงินภายในงาน รวม 960 ราย เป็นวงเงินรวม 2,722 ล้านบาท แบ่งเป็น
กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จำนวน 282 ราย วงเงิน 297 ล้านบาท
กองทุนฟื้นฟูเอสเอ็มอี จำนวน 230 ราย วงเงิน 186.7 ล้านบาท
สินเชื่อจาก SME Bank จำนวน 142 ราย วงเงิน 581.3 ล้านบาท
ธนาคารรัฐและเอกชนที่ร่วมออกบูธในงาน จำนวน 306 ราย วงเงิน 1,657 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ประสงค์ยื่นกู้ ผ่านสื่อ Online ของ SME Bank ในช่วงระหว่างงานอีก จำนวน 1,410 ราย จำนวนเงินรวม 5,211 ล้านบาท
สำหรับกิจกรรมอบรมสัมมนาให้ความรู้และการให้คำปรึกษาแนะนำ พบว่ามีผู้เข้าร่วมการอบรมสัมมนาที่น่าสนใจที่จัดขึ้นในระหว่างงาน อาทิ Digital Marketing, การเข้าสู่ตลาด MAI, เปลี่ยนผ่าน SMEs สู่ยุค Industry 4.0, ถอดรหัส SMEs สู่วิถีความเป็นอัจฉริยะ (Intelligent SMEs) และอื่นๆกว่า 20 หลักสูตร จำนวนรวม 2,511 คน มีผู้เข้ารับคำปรึกษาแนะนำในเรื่องการดำเนินธุรกิจ 969 ราย โดยในระหว่างงานยังได้มีการถ่ายทอดสดกิจกรรมต่างๆ ผ่านสื่อ Social Online ซึ่งมีผู้รับชมวีดีโอถ่ายทอดสดต่างๆ รวม 76,326 ราย
สำหรับการจัดจำหน่ายสินค้าภายในงาน มีผู้ประกอบการมาร่วมออกบูธในงานประมาณ 80 ราย มียอดจำหน่ายรวม 3.76 ล้านบาท
ผลของการจัดงานในครั้งนี้ นอกจากจะช่วยสร้างให้เกิดยอดมูลค่าโอกาสทางเศรษฐกิจกว่า 8,000 ล้านบาทแล้ว ยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ประกอบการ SMEs ถึงมาตรการและกลไกของภาครัฐในการสนับสนุนส่งเสริมพัฒนาและช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ที่ครอบคลุมทั้ง 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่อยู่ในระยะเริ่มต้นของการทำธุรกิจ และกลุ่มที่เพิ่งจะเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ซึ่งมีศักยภาพในการเติบโตโดยอาศัยนวัตกรรมเป็นพลังสำคัญกลุ่ม SME ที่ดำเนินธุรกิจอยู่แล้วและพร้อมที่จะยกระดับกิจการ ขยายการลงทุน สร้างมูลค่าเพิ่มให้สินค้าและบริการมีศักยภาพที่จะเข้าถึงตลาดในต่างประเทศได้ และกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่ม SME ที่ประสบปัญหาในการดำเนินธุรกิจ แต่กิจการยังมีศักยภาพ หากได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสม ก็จะสามารถพลิกฟื้นให้กลับมาดำเนินธุรกิจต่อไปได้อย่างเข้มแข็งต่อไปอีกด้วย
สามารถชมภาพข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://drive.google.com/open?id=0B9G74C364fNHOFdaNUNMUWcwZ28

ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ: ที่ปรึกษาด้านประชาสัมพันธ์งาน SME Revolution
วาทินี อยู่ภิรมย์ (เหมียว) โทร. 084 536 5655 อีเมล: watinee.yoopirom@gmail.com
จิรวัส มนตรีวงค์ (ดิว) โทร. 084 668 8845 อีเมล: jirawat@888ideas.com