กระทรวงวิทย์ฯ นำทัพงานวิจัยโดดเด่นด้านพลังงานโชว์เข้าตาผู้ประกอบการไทยและต่างชาติ ในงานประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติด้านพลังงาน SETA 2017
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ยังคงเดินหน้าสนับสนุนการวิจัยที่เป็นประโยชน์ต่อการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และให้มีความสอดคล้องกับกรอบยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (2560-2579) ซึ่งต้องการเพิ่มขีดความสามารถด้านเศรษฐกิจ โดยใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน ใช้องค์ความรู้เพื่อเป็นพื้นฐานในการเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับด้านเกษตร อาหารและพลังงานทดแทน อีกทั้งนำวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีถ่ายทอดไปสู่โรงเรียน ชุมชน ทั่วประเทศต่อไป
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจึงได้ร่วมกับกระทรวงพลังงาน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กระทรวงคมนาคม และ กรุงเทพมหานคร จัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการนานาชาติ “โครงการพลังงานและเทคโนโลยีที่ยั่งยืนแห่งเอเชีย 2560” หรือ “SETA 2017” ภายใต้ธีม “Towards A Low-Carbon Society”
ตัวอย่างผลงานวิจัยที่น่าสนใจและมีประโยชน์ที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ เป็นแอพพลิเคชั่นที่สามารถจับต้องได้และใช้งานได้จริง อาทิ นวัตกรรมเทคโนโลยีการผลิตไบโอมีเทนจากก๊าซชีวภาพ โดยใช้สารกรองก๊าซจากของเสียภาคการเกษตร โดย สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) ที่ช่วยเพิ่มคุณภาพในการผลิตเป็นไบโอมีเทน เป็นพลังงานทางเลือกทดแทนทางความร้อนเพื่อส่งเสริมการใช้ก๊าซชีวภาพในระบบฟาร์มปศุสัตว์และระบบบำบัดน้ำเสียแบบไร้อากาศในภาคอุตสาหกรรม ภาคการขนส่งและความร้อนอย่างเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในเขตพื้นที่สูง พื้นที่ที่ไม่มีการจ่ายไฟฟ้า ส่วนทาง NECTEC นำเสนอผลงานวิจัยเกี่ยวกับระบบเฝ้าสังเกตพลังงานไฟฟ้าแบบไร้สาย เพื่อใช้ตรวจวัดการใช้พลังงานไฟฟ้าแบบไร้สาย โดยส่งข้อมูลไปเก็บไว้ในระบบคลาวด์และแสดงผลผ่านอินเทอร์เน็ตได้ ผู้ใช้งานสามารถอ่านค่าได้ในทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่านคอมพิวเตอร์และสมาร์ทโฟน เป็นการเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยให้แก่ผู้ใช้งานและลดปัญหาการติดตั้งและเดินสายไฟของระบบ ฯลฯ เป็นต้น
ความสำเร็จของภาพรวมในการจัดแสดงผลงานวิจัยลักษณะนี้ คือทำให้ผู้ชมงานสามารถพูดคุยกับนักวิจัยและนักวิชาการต่าง ๆ ได้โดยตรง ได้ข้อมูลที่ครบชัดเจนถูกต้อง สามารถทุ่นเวลาการไปเปิดหน้าเว็บเพจและต้องรอเวลาในการติดต่อสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ซึ่งการร่วมชมงานจะเป็นการประหยัดเวลาอย่างดี สำหรับทุกผลงานวิจัยของกระทรวงฯ ที่จัดแสดงภายในงาน มีผู้ประกอบการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสนใจจำนวนมาก เพราะสามารถนำไปต่อยอดกับธุรกิจได้อย่างดี
