กรมส่งเสริมสหกรณ์ ระดมเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ผู้ประสบภัยใน 5 จังหวัดภาคอีสาน พร้อมประสานเครือข่ายสหกรณ์ในภาคต่าง ๆ ส่งถุงยังชีพเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ผ่านสำนักงานสหกรณ์จังหวัดนำไปแจกจ่ายชาวบ้าน เผยเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์และสหกรณ์ที่ประสบภัยน้ำท่วมภาคอีสานเต็มที่ ทั้งในระยะ เร่งด่วนเฉพาะหน้าและระยะยาวเพื่อฟื้นฟูหลังน้ำลด จัดสรรเงินกองทุนพัฒนาสหกรณ์ 300 ล้านบาทให้สหกรณ์ในพื้นที่ประสบน้ำท่วมกู้ยืมในอัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อนำไปบรรเทาความเดือดร้อนให้สมาชิก
นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ เปิดเผยว่าจากที่ได้ติดตามคณะพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ไปตรวจราชการที่จังหวัดสกลนคร และจังหวัดนครพนม เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2560 ที่ผ่านมา ทราบว่าขณะนี้มีพื้นที่การเกษตรที่ประสบปัญหาน้ำท่วม 5 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบด้วยจังหวัดสกลนคร นครพนม มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และมุกดาหาร ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเทือกเขาภูพานที่ประสบกับพายุใต้ฝุ่นเซนกาทำให้ฝนตกหนัก มีปริมาณน้ำจำนวนมาก จนเกิดอุทกภัยน้ำหลากและน้ำท่วมในพื้นที่ทำการเกษตรและที่อยู่อาศัย
กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้สั่งการให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดสำรวจความเสียหายในเบื้องต้น พบว่ามีสหกรณ์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วมขณะนี้ คาดว่ามีประมาณ 300 แห่ง มีสมาชิกสหกรณ์ 50,000-60,000 คน ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อนจากอุทกภัยในครั้งนี้ ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์เป็นหนึ่งในหน่วยงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งได้รับนโยบายจากพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้เร่งดำเนินการดูแลช่วยเหลือเกษตรกรและพี่น้องประชาชนให้ส่วนที่แต่ละกรมฯรับผิดชอบ
ทั้งนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้มีมาตรการให้การช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ผู้ประสบอุทกภัยเป็นการเร่งด่วน โดยมาตรการช่วยเหลือเฉพาะหน้า ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางระหว่างสหกรณ์ในพื้นที่อื่นๆ ทั้งในภาคใต้ ภาคเหนือและภาคกลาง ที่มีความประสงค์จะช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่ประสบอุทกภัย โดยการจัดหาอาหารน้ำดื่มและสิ่งของจำเป็นนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยในพื้นที่จังหวัดสกลนครได้รับบริจาคเงินรวมทั้งสิ้น 102,500 บาท สิ่งของ 164,500 บาท และถุงยังชีพ 1,390 ถุง จังหวัดนครพนม ได้รับบริจาคเงินรวมทั้งสิ้น 52,940 บาท ถุงยังชีพ 100 ถุง พร้อมกันนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้แนะนำให้สหกรณ์ที่มีสมาชิกได้รับความเดือดร้อนจากปัญหาน้ำท่วม ใช้เงินทุนสาธารณะประโยชน์ของสหกรณ์เองมาช่วยเหลือสมาชิกเป็นการเฉพาะหน้าด้วย
“ขณะนี้สหกรณ์ในจังหวัดที่ไม่ได้รับผลกระทบก็จะส่งปัจจัยที่จำเป็นต่างๆ ไปช่วยสหกรณ์ในจังหวัดที่ได้รับผลกระทบ เช่น การนำอาหาร น้ำดื่ม และอาหารปรุงสุก ซึ่งขณะนี้มีสหกรณ์ในภาคใต้ได้บริจาคปลากระป๋อง สหกรณ์ในภาคกลางบริจาคน้ำดื่ม และยังได้รวบรวมเงินบริจาคจัดส่งไปให้สหกรณ์ในพื้นที่ประสบอุทกภัยได้นำไปซื้อของใช้และจัดหาอาหารนำไปมอบให้กับสมาชิกสหกรณ์ในพื้นที่น้ำท่วมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งความช่วยเหลือกันในขบวนการสหกรณ์จากทั่วประเทศส่งไปยังสหกรณ์ในพื้นที่ที่ประสบภัยน้ำท่วม เป็นกลไกหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความรักใคร่สมานฉันท์ในขบวนการสหกรณ์ในยามที่ประสบปัญหาหรือได้รับความเดือดร้อน ทุกคนก็ยินดีที่จะยิบยื่นความช่วยเหลือและแสดงออกถึงความห่วงใยซึ่งกันและกัน” นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว
ส่วนมาตรการระยะยาว กรมฯมีแนวทางในการให้ความช่วยเหลือบรรเทาปัญหาด้านหนี้สินของสมาชิกสหกรณ์ โดยจะเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการช่วยเหลือในกรณีสมาชิกสหกรณ์ที่ประสบอุทกภัยพื้นที่ทำการเกษตรได้รับความเสียหายและไม่มีความสามารถชำระหนี้คืนให้ธกส. ก็จะขอให้พิจารณาพักชำระหนี้ เป็นเวลา 1 ปี โดยรัฐบาลจ่ายชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้แทนสมาชิก ส่วนหนี้สินของสหกรณ์ที่มีอยู่กับกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ก็ดำเนินการได้ทันทีตามระเบียบกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) ที่กำหนดไว้ คือ กรณีในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัยหากมีความจำเป็นกรมส่งเสริมสหกรณ์จะพิจารณาขยายระยะเวลาชำระหนี้ออกไป 1 ปีด้วยเช่นกัน
สำหรับหนี้สินที่สมาชิกสหกรณ์มีอยู่กับสหกรณ์นั้น ทางกรมฯจะขอความร่วมมือจากสหกรณ์ที่มีสมาชิกประสบอุทกภัย พิจารณาลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อช่วยเหลือในยามที่สมาชิกสหกรณ์ขาดรายได้เนื่องจากพื้นที่ประกอบอาชีพการเกษตรเสียหายจากน้ำท่วม ซึ่งอาจจะลดดอกเบี้ยลง 0.5-1 % เป็นระยะเวลา 3-6 เดือน เพื่อให้สมาชิกสามารถยังชีพอยู่ได้ในระยะหนึ่งจนกว่าจะกลับคืนสู่สภาพปกติ สามารถประกอบอาชีพจนมีรายได้นำมาชดใช้หนี้สินคืนสหกรณ์ได้เหมือนเดิม ซึ่งจะเป็นการช่วยเหลือที่สหกรณ์สามารถทำได้โดยตรงกับสมาชิกของสหกรณ์เอง
“นอกจากนี้ยังได้เตรียมมาตรการฟื้นฟูหลังน้ำลด ทางกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดสรรวงเงินจาก กพส. จำนวน 300 ล้านบาท ในอัตราดอกเบี้ยต่ำสำหรับสหกรณ์ในพื้นที่ประสบอุทกภัยกู้ยืมไปให้สมาชิกกู้ยืมต่อเพื่อฟื้นฟูอาชีพหลังน้ำลด เพื่อนำไปทำอาชีพที่สร้างรายได้ในระยะสั้น ระหว่างการรอฟื้นฟูพื้นที่การเกษตรซึ่งเป็นอาชีพหลัก ซึ่งขณะนี้ มีวงเงินพร้อมให้กู้แล้วขณะนี้จำนวน 10 ล้านบาท ส่วนอีก 290 ล้านบาท รอการนำเสนอคณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาสหกรณ์ ซึ่งจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเร็ววันนี้” นายวิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว
ขณะเดียวกัน กรมส่งเสริมสหกรณ์ยังได้จัดสรรเงินงบประมาณจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อจัดตั้งหน่วยบริการเคลื่อนที่ให้จัดอบรมให้ความรู้และบริการซ่อมแซมเครื่องจักรกลการเกษตร และอุปกรณ์อื่นๆ แก่สมาชิกสหกรณ์หลังน้ำลด และสั่งการให้เจ้าหน้าที่สำนักงานสหกรณ์จังหวัดในพื้นที่ประสบภัย เตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์อย่างทันท่วงทีและลงพื้นที่ติดตามสอบถามความต้องการจากสมาชิกสหกรณ์อย่างใกล้ชิดว่ายังต้องการความช่วยเหลือในด้านใดอีกหรือไม่ ซึ่งกรมฯพร้อมจะช่วยประสานงานกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในการเข้าไปดูแลให้การช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ที่ประสบภัยน้ำท่วมให้สามารถดำเนินชีวิตและกลับคืนสู่สภาวะปกติได้โดยเร็วต่อไป
