กรมส่งเสริมวิชาการเกษตรจับมือสมาคมอารักขาพืชไทย เร่งให้ความรู้ใช้สารปลอดภัยแก่เกษตรกรผู้ผลิตพืชเศรษฐกิจ หวังสร้างความเชื่อมั่นสินค้าไทย

0
417
image_pdfimage_printPrint

logo

นางชุติมา รัตนเสถียร ผู้อำนวยการสมาคมอารักขาพืชไทย เปิดเผยถึงการลงพื้นที่ให้ความรู้แก่เกษตรกรภายใต้โครงการ “ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเกษตรกร 9 จังหวัด” ซึ่งได้ร่วมกับ กรมวิชาการเกษตร เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สารอารักขาพืช เครื่องมือป้องกัน การใช้สารอารักขาพืชอย่างเข้าใจ ถูกต้อง ปลอดภัยแก่เกษตรกรในพื้นที่ 9 จังหวัดที่มีการปลูกพืช และผักเศรษฐกิจ เพื่อการบริโภคและส่งออก ว่า โครงการดังกล่าวเป็นโครงการต่อเนื่อง ได้เริ่มให้การอบรมมาตั้งแต่เริ่มต้นปีงบประมาณที่ผ่านมาเดือนกันยายน 2557 และจะสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2558 กำหนดให้เกษตรกรเป้าหมายใน 9 จังหวัดที่ผ่านการคัดเลือกจากสำนักงานเกษตรจังหวัด ว่าเป็นเกษตรกรผู้ผลิตเพื่อการบริโภคและการส่งออกในพื้นที่ ต้องรับการอบรมการใช้สารอารักขาพืชและอุปกรณ์ป้องกันทั้งหมด 2 หลักสูตร และหลังจากเข้ารับการอบรมแล้วจะมีการประเมินผลติดตามการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้สารอารักขาพืช เพื่อให้กรมวิชาการเกษตรออกใบรับรอง GAP ให้ในปี 2559
โดยพื้นที่เป้าหมาย 9 จังหวัด ได้แก่ เกษตรกรสวนผัก ในจ.กาญจนบุรี เกษตรกรชาวไร่สตรอเบอรี่ ใน จ.เชียงใหม่ เกษตรกรชาวไร่กระหล่ำปลี ในจ.ตาก ,ชาวนาใน จ.ชัยนาท และจ.นครสวรรค์ เกษตรกรชาวสวนลำไยในจ.สระแก้ว เกษตรกรชาวสวนทุเรียน จ.จันทบุรี เกษตรกรชาวไร่แตงโม ในจ.ขอนแก่น และเกษตรกรชาวสวน พุทรานมสดในพื้นที่วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ซึ่งเกษตรกรในพื้นที่เป้าหมายเป็นกลุ่มเกษตรกรผู้ผลิตที่เน้นจำหน่ายในตลาดใหญ่ หรือบางรายมีตลาดส่งออก เป็นตลาดหลักเป็นกลุ่มผู้ผลิตที่ต้องมีความเข้าใจอย่างถูกต้องในการใช้สารอารักขาพืช ให้เหมาะสมกับช่วงเวลา เพื่อความปลอดภัยกับตัวเอง ชุมชน และผู้บริโภค อีกทั้งความเข้าใจที่ถูกต้องนี้จะยังช่วยให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนในการผลิตได้ถึง 40% ทีเดียว
การอบรมหลักสูตรดังกล่าว จะให้ความรู้ที่ถูกต้องแก่เกษตรกรในการพิจารณาตัดสินใจใช้สารเคมีให้เหมาะสมกับช่วงวัย ช่วงเวลา ของการระวังป้องกันโรค แมลงศัตรูพืช และ บำรุงผลผลิต เนื่องจากที่ผ่านเกษตรกรตระหนกเมื่อเกิดโรคหรืออาการ ที่อาจยังไม่รุนแรง หรืออาจใช้การบำรุงที่ยังไม่เหมาะสมกับการตอบสนองของผลผลิต หรือจังหวะเวลาในการเก็บเกี่ยวผลผลิตหลังการใช้สารอารักขาพืช ซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจในผลผลิตของผู้บริโภค ตลอดจนความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับเครื่องมือป้องกันส่วนบุคคลในการใช้สารอารักขาพืช เพื่อสุขภาพของเกษตรกรเอง ผลตอบรับหลังการอบรมพบว่าเกษตรกรในพื้นที่ยินดีให้ความร่วมมือและพร้อมพัฒนาตัวเองเพื่อให้ผลผลิตเป็นที่ยอมรับของตลาด แต่ปัญหาพบว่าจุดจำหน่ายเครื่องมือการใช้งานที่ปลอดภัยยังหาซื้อยาก และยังมีปัญหาการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เคมีทางการเกษตรที่ไม่มีการรับรองและไม่ได้มาตรฐานกระจายอยู่ในพื้นที่ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะได้นำมากำหนดทิศทางและนโยบายการพัฒนาหลักสูตรตลอดจนหามาตรการในการระวังป้องกันต่อไป
นายธงชัย สุทธิพงศ์เกียรติ์ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการจัดการสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช กรมส่งเสริมการเกษตร ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับการติดตามประเมินผลโครงการว่า ความมั่นใจของผู้บริโภคต่อสินค้าเป็นสิ่งอ่อนไหวทั้งในแง่ของการบริโภคและการส่งออก กรมส่งเสริมการเกษตร มีหน้าที่โดยตรงในการสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่เกษตรกรเพื่อผลิตอาหารที่ปลอดภัย ไว้วางใจได้แก่ผู้ซื้อ ดังนั้นจึงมุ่งเป้าไปที่ผู้ผลิตระดับกลางถึงระดับใหญ่ก่อนคาดว่าในปีงบประมาณนี้จะสามารถอบรมเกษตรกร ราว 300 คน จาก 9 จังหวัดเพื่อให้สามารถติดตามประเมินผลว่าหลังรับการอบรมแล้วเกษตรกรนำไปประยุกต์ใช้ในการผลิตของตนหรือไม่ โดยมีสำนักงานเกษตรจังหวัดเป็นหน่วยงานสำคัญที่จะช่วยติดตามประเมินผล และหากเกษตรกรนำไปใช้จริง กรมฯจะมอบเครื่องหมายรับรอง GAP ให้ในปี โดยการอบรมสุดท้ายจะจัดให้กับกลุ่มเกษตรกรชาวสวนพุทรานมสดที่ อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา ในวันที่ 28 สิงหาคมนี้
+++++++++++++++++++++++++++++++++
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม (นก) วัชรินทร์ : 081-573-0636