กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมกับ ยิปซัม ตราช้าง เสริมความแกร่งพัฒนาช่างฝีมือแรงงานยิปซัม ตามนโยบายภาครัฐ 4.0
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน ร่วมกับ บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม จำกัด (สระบุรี) จำกัด จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงานด้านงานยิปซัม
มุ่งพัฒนาด้านวิชาชีพในการเพิ่มศักยภาพของช่างยิปซัมไทยให้มีฝีมือมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล โดยความร่วมมือครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่ 4 ด้วยระยะเวลาการทำงานกว่า 13 ปี
ซึ่งสามารถผลิตช่างฝีมือด้านยิปซัมที่มีคุณภาพรองรับตลาดแรงงานช่างกว่า 1,325 คน ครอบคลุมทั่วประเทศ
คุณวราวรรณ ภาปราชญ์ ผู้ตรวจราชการกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวว่า “พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงานด้านงานยิปซัม
ถือเป็นการร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนซึ่งเป็นไปตามแนวทางประชารัฐโดยยึดนโยบายหลักประการหนึ่งของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกระทรวงแรงงาน
ซึ่งได้มีการปฏิบัติมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยเป้าหมายสนับสนุนกการจัดตั้งศูนย์ฝึกอบรมหลักสูตรการฝึกอบรมอาชีพ สาขาติดตั้งผนังฝ้าเพดาน และฉาบรอยต่อ สำหรับระยะเวลาการฝึกอบรมตลอดหลักสูตร 30 ชั่วโมง
โดยมุ่งพัฒนานักเรียนช่าง และบุคคลทั่วไปที่สนใจประกอบอาชีพนี้ ทางกรมฯ ได้สนับสนุนและร่วมพัฒนาให้กับชุมชนที่ผ่านทั่วประเทศกว่า 25 แห่ง เพื่อพัฒนาศักยภาพกำลังแรงงาน ให้มีทักษะ ความรู้ และความชำนาญ
ถือเป็นการพัฒนาทรัพยกรมนุษย์ซึ่งเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศให้บรรลุวิสัยทัศน์ สร้างความมั่นคงและยั่งยืนตามกรอบยุทธศาสตร์ระยะเวลา 20 ปี และนโนยบายประเทศไทย 4.0
คุณจรุง กาญจนภูมิ ผู้จัดการทั่วไปประจำประเทศไทย บริษัท สยามอุตสาหกรรมยิปซัม จำกัด (สระบุรี) จำกัด กล่าวว่า “ยิปซัม ตราช้าง ในฐานะผู้นำและผู้เชี่ยวชาญเรื่องฝ้าเพดานและผนังยิปซัม กล่าวเพิ่มเติม
“การลงนามข้อตกลงความร่วมมือว่าด้วยการพัฒนาฝีมือแรงงานด้ายยิปซัม ถือเป็นการลงนามร่วมกันครั้งที่ 4 และทำงานร่วมกันมากว่า 13 ปี ปัจจุบันผลิตช่างฝีมือคุณภาพได้กว่า 1,325 คนทั่วประเทศ
ด้วยนโยบายที่มุ่งพัฒนายกระดับช่างฝีมือแรงงานและสร้างความเป็นมืออาชีพในงานเฉพาะด้านเข้าสู่งตลาดแรงงานไทย รวมถึงการมีวิสัยทัศน์กว้างไกลในการวางกรอบการพัฒนาคุณภาพแรงงานอย่างเป็นระบบ
เพื่อเป็นการพัฒนาอนาคตแรงงานไทยทั้งระบบให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
“ยิปซัม ตราช้าง” มีความยินดีและมุ่งมั่นสานต่อการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างประโยชน์ต่อสังคม และร่วมพัฒนาชุมชนให้มีชีวิตที่สมบูรณ์และนำความรู้ที่ได้รับไปพัฒนาช่วยเหลือชุมชนของได้ต่อไป